เทเบิลเทนนิส
ประวัติเทเบิลเทนนิส
กีฬา
เทเบิลเทนนิสเริ่มขึ้นในประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2433
เริ่มเล่นโดยใช้ไม้ที่มีลักษณะคล้ายกับไม้เทเบิลเทนนิสในปัจจุบันแต่หุ้ม
ด้วยหนังสัตว์ตีลูกเซลลูลอยด์ เวลาลูกกระทบพื้นโต๊ะและไม้ก็จะเกิดเสียง
‘ปิก-ป๊อก’ จึงเรียกชื่อว่า ‘ปิงปอง’ (Pingpong)
ต่อมาไม้ที่หุ้มด้วยหนังสัตว์ได้เปลี่ยนเป็นแผ่นไม้ธรรมดา การจับไม้มี 2
แบบ คือ จับไม้แบบการจับมือ (Shake Hand) กับการจับไม้แบบจับปากกา (Pen
Holder)
พ.ศ. 2443 เริ่มมีไม้ปิงปองติดยางเม็ด
พ.ศ. 2465 บริษัทเครื่องกีฬาได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็น “ Table-Tennis”
พ.ศ. 2469 - ก่อตั้งสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ (International Table-Tennis
Federation:ITTF) ขึ้นที่กรุงลอนดอน ในเดือนธันวาคม โดยมีนายอีวอร์ มองตากู (Mr. Ivor Montago) เป็นประธานคนแรก
- การแข่งขันเทเบิลเทนนิสแห่งโลก ครั้งที่ 1
พ.ศ. 2495 ญี่ปุ่นเข้าร่วมการแข่งขันเทเบิลเทนนิสแห่งโลกเป็นครั้งแรก
พ.ศ. 2496 สาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าร่วมการแข่งขันเทเบิลเทนนิสโลก ครั้งแรก
พ.ศ. 2500 ก่อตั้งสมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศ
พ.ศ. 2531 บรรจุการแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสในกีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งแรกที่กรุงโซลประเทศสาธารณรัฐเกาหลี
พ.ศ. 2443 เริ่มมีไม้ปิงปองติดยางเม็ด
พ.ศ. 2465 บริษัทเครื่องกีฬาได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็น “ Table-Tennis”
พ.ศ. 2469 - ก่อตั้งสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ (International Table-Tennis
Federation:ITTF) ขึ้นที่กรุงลอนดอน ในเดือนธันวาคม โดยมีนายอีวอร์ มองตากู (Mr. Ivor Montago) เป็นประธานคนแรก
- การแข่งขันเทเบิลเทนนิสแห่งโลก ครั้งที่ 1
พ.ศ. 2495 ญี่ปุ่นเข้าร่วมการแข่งขันเทเบิลเทนนิสแห่งโลกเป็นครั้งแรก
พ.ศ. 2496 สาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าร่วมการแข่งขันเทเบิลเทนนิสโลก ครั้งแรก
พ.ศ. 2500 ก่อตั้งสมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศ
พ.ศ. 2531 บรรจุการแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสในกีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งแรกที่กรุงโซลประเทศสาธารณรัฐเกาหลี
อุปกรณ์ปิงปอง
1.โต๊ะเทเบิลเทนนิส (THE TABLE)
1.1 พื้นหน้าด้านบนของโต๊ะเรียกว่า “พื้นผิวโต๊ะ” (PLAYING SURFACE) จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความยาว 2.74 เมตร (9 ฟุต) ความกว้าง 1.525 เมตร 5 ฟุต และจะต้องสูงได้ระดับ โดยวัดจากพื้นที่ตั้งขึ้นมาถึงพื้นที่ผิวโต๊ะ สูง 76 เซนติเมตร (2 ฟุต 6 นิ้ว)
1.2 พื้นผิวโต๊ะ ไม่รวมถึงด้านข้างตามแนวตั้งที่อยู่ต่ำกว่าขอบบนสุดของโต๊ะลงมา
1.3 พื้นผิวโต๊ะอาจทำด้วยวัสดุใด ๆ ก็ได้ แต่จะต้องมีความกระดอนสม่ำเสมอเมื่อเอาลูก เทเบิลเทนนิสมาตรฐานปล่อยลงในระยะสูง 30 เซนติเมตร โดยวัดจากพื้นผิวโต๊ะลูกกระดอนขึ้นมาประมาณ 23 เซนติเมตร
1.4 พื้นผิวโต๊ะจะต้องเป็นสีเข้มสม่ำเสมอและเป็นด้านไม่สะท้อนแสง ขอบด้านบนของผิวโต๊ะทั้ง 4 ด้าน จะทาด้วยสีขาว มีขนาดกว้าง 2 เซนติเมตร เส้นของพื้นผิวโต๊ะด้านยาว 2.74 เมตร ทั้งสองด้านเรียกว่า “เส้นข้าง” (SIDE LINE) เส้นของพื้นผิวโต๊ะด้านกว้าง 1.525 เมตร ทั้งสองด้านเรียกว่า “เส้นสกัด” ( END LINE)
1.5 พื้นผิวโต๊ะจะถูกแบ่งออกเป็นสองแดน (COURTS) เท่า ๆ กัน กั้นด้วยตาข่ายซึ่งขึงตั้งฉากกับพื้นผิวโต๊ะ และขนานกับเส้นสกัดโดยตลอด
1.6 สำหรับประเทศคู่ ในแต่ละจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน ด้วยเส้นสีขาวมีขนาดกว้าง 3 มิลลิเมตร โดยขีดขนานกับเส้นข้างเรียกว่า “เส้นกลาง” (CENTER LINE) และให้ถือว่าเส้นกลางนี้เป็นส่วนหนึ่งของคอร์ดด้านขวาของโต๊ะด้วย
1.7 ใน
การแข่งขันระดับมาตรฐานสากล โต๊ะเทเบิลเทนนิสที่ใช้สำหรับการแข่งขันจะต้อง
เป็นยี่ห้อและชนิดที่ได้รับการรับรองสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ (ITTF) เท่านั้น โดยโต๊ะเทเบิลเทนนิสจะมีสีเขียวหรือสีน้ำเงิน และในการแข่งขันทุกครั้ง
2.ส่วนประกอบของตาข่าย (THE NET ASSEMBLY)
2.1 ส่วนประกอบของตาข่ายจะประกอบด้วย ตาข่าย ที่แขวน และเสาตั้ง รวมไปถึงที่จับยึดกับโต๊ะเทเบิลเทนนิส
2.2 ตาข่ายจะต้องขึงตึงและยึดด้วยเชือกซึ่งผูกติดปลายยอดเสาซึ่งตั้งตรงจากพื้นผิวโต๊ะ 15.25 เซนติเมตร (6 นิ้ว)
2.3 ส่วน
บนสุดของตาข่ายตลอดแนวยาวจะต้องสูงอยู่ชิดกับพื้นผิวโต๊ะให้มากที่สุดเท่า
ที่เป็นไปได้ และส่วนปลายสุดของตาข่ายทั้งสองด้านจะต้องอยู่ชิดกับเสาให้
มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
2.4ใน
การแข่งขันระดับมาตรฐานสากล ตาข่ายที่ใช้สำหรับแข่งขันจะต้องเป็นยี่ห้อ
และชนิดที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ (ITTF)
3.ลูกเทเบิลเทนนิส (THE BALL)
3.1 ลูกเทเบิลเทนนิส จะต้องกลมและมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร
3.2 ลูกเทเบิลเทนนิส จะต้องมีน้ำหนัก 2.7 กรัม
3.3 ลูกเทเบิลเทนนิส จะต้องทำด้วยเซลลูลอยด์หรือวัสดุพลาสติกอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน มีสีขาว หรือสีส้ม และเป็นสีด้าน
3.4 ลูกเทเบิลเทนนิส จะต้องเป็นยี่ห้อและชนิดที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ (ITTF) เท่านั้น และจะต้องระบุสีของลูกที่ใช้แข่งขันลงในระเบียบการแข่งขันทุกครั้ง
4.ไม้เทเบิลเทนนิส (THE RACKET)
4.1 ไม้เทเบิลเทนนิสจะมีรูปร่าง ขนาดหรือหนักอย่างไรก็ได้ แต่หน้าไม้จะต้องแบนเรียบและแข็ง
4.2 อย่างน้อยที่สุด 85% ของ
ความหนาของไม้ จะต้องทำด้วยไม้ธรรมชาติ ชั้นที่อัดอยู่ภายในหน้าไม้ ซึ่ง
ทำด้วยวัสดุอื่นใด เช่น
คาร์บอนไฟเบอร์ กลาสไฟเบอร์ หรือกระดาษอัดจะต้องมีความหนาไม่เกิน 7.5% ของความหนาทั้งหมดของไม้ หรือไม่เกิน 0.35 มิลลิเมตร สุดแท้แต่กรณีใดจะมีค่าน้อยกว่า
4.3 หน้าไม้
เทเบิลเทนนิสด้านที่ใช้ตีลูกจะต้องมีวัสดุปิดทับวัสดุนั้นจะเป็นแผ่นยางเม็ด
ธรรมดา แผ่นยางชนิดนี้ เมื่อปิดทับหน้าไม้และรวมกับกาวแล้วจะต้องมีความ
หนาทั้งสิ้นไม่เกิน 2 มิลลิเมตร หรือแผ่นยางชนิดสอดไส้ แผ่นยางชนิดนี้เมื่อปิดทับหน้าไม้และรวมกับกาวแล้วจะต้องมีความหนาทั้งสิ้นไม่เกิน 4 มิลลิเมตร ทั้งนี้ความสูงของเม็ดยางจะเท่ากับความกว้างของเม็ดยางในอัตราส่วน 1:1
4.3.1 แผ่นยางเม็ดธรรมดา (ORDINARY PIMPLED RUBBER) จะ
ต้องเป็นแผ่นยางชิ้นเดียวและไม่มีฟองน้ำรองรับโดยหันเอาเม็ดยางออกมาด้าน
นอก จะทำด้วยยางธรรมชาติหรือยางสังเคราะห์ มีเม็ดยางกระจายสม่ำเสมอไม่
น้อยกว่า10 เม็ดต่อ 1 ตารางเซนติเมตร และไม่มากกว่า 30 เม็ดต่อ 1 ตารางเซนติเมตร
4.3.2 แผ่นยางชนิดสอดไส้ (SANDWICH RUBBER) )
ประกอบด้วยฟองน้ำชิ้นเดียวปิดคลุมด้วยแผ่นยางธรรมดาชิ้นเดียว โดยจะหันเอา
เม็ดยางอยู่ด้านในหรือด้านนอกได้ ซึ่งความหนาของแผ่นยางธรรมดานี้จะต้องมี
ความหนาไม่เกิน 2 มิลลิเมตร
4.4 วัสดุปิดทับหน้าไม้จะต้องปิดคลุมหน้าไม้ด้านนั้น ๆ และจะต้องไม่เกินขอบหน้าไม้หุ้มด้วยวัสดุใด ๆ ก็ได้
4.5 หน้าไม้เทเบิลเทนนิส ชั้นภายในหน้าไม้และชั้นของวัสดุปิดทับต่าง ๆ หรือกาว จะต้องสม่ำเสมอและมีความหนาเท่ากันตลอด
4.6 หน้าไม้เทเบิลเทนนิส ด้านหนึ่งจะต้องเป็นสีแดงสว่าง (BRIGHT RED) และอีกด้านหนึ่งจะต้องเป็นสีดำ (BLACK) และจะต้องมีสีกลมกลืนอย่างสม่ำเสมอไม่สะท้อนแสง
4.7 วัสดุที่ปิดทับหน้าไม้สำหรับตีลูกเทเบิลเทนนิสจะต้องมีเครื่องหมายการค้าของบริษัทผู้ผลิต ยี่ห้อ รุ่น และเครื่องหมาย ITTF และชนิด (BRAND AND TYPE) ที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ (ITTF) ครั้งหลังสุดเท่านั้น
4.8 สำหรับ
กาวที่มีส่วนประกอบของสารที่เป็นพิษจะไม่อนุญาตให้ใช้ทาลงบน
หน้าไม้ เทเบิลเทนนิส ผู้เล่นจะต้องใช้กาวแผ่นสำเร็จรูป หรือกาวที่
ได้รับการรับรองจากสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ (ITTF) เท่านั้น และห้ามใช้กาวในการติดยางกับไม้เทเบิลเทนนิสในบริเวณสนามแข่งขัน
4.9 การ
เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของความสม่ำเสมอของผิวหน้าไม้หรือวัสดุปิดทับ หรือความ
ไม่สม่ำเสมอของสีหรือขนาดเนื่องจากการเสียหายจากอุบัติเหตุ การใช้งานหรือ
สีจางอาจจะอนุญาตให้ใช้ได้ โดยมีเงื่อนไขว่า เหตุเหล่านั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญต่อคุณลักษณะของผิวหน้าไม้ หรือผิววัสดุปิดทับ
4.10 เมื่อ
เริ่มการแข่งขันและเมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นเปลี่ยนไม้เทเบิลเทนนิสระหว่างการ
แข่งขัน ผู้เล่นจะต้องแสดงไม้เทเบิลเทนนิสที่เขาเปลี่ยนให้กับคู่แข่ง
ขัน และกรรมการผู้ตัดสินตรวจสอบก่อนทุกครั้ง
4.11 เป็นความรับผิดชอบของผู้เล่นที่ต้องมั่นใจว่าไม้เทเบิลเทนนิสนั้นถูกต้องตามกติกา
4.12 ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์การเล่นให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้ชี้ขาด
ลำดับการเล่นการได้คะแนน
1 ลำดับการเล่น (THE ORDER OF PLAY)
1.1 ประเภทเดี่ยว ฝ่ายส่งได้ส่งอย่างถูกต้อง ฝ่ายรับจะตีโต้กลับไปอย่างถูกต้องหลังจากนั้นฝ่ายส่งและฝ่ายรับจะผลัดกันตีโต้
1.2 ประเภทคู่ ผู้
ส่งลูกของฝ่ายส่งจะส่งลูกไปยังฝ่ายรับ
ผู้รับของฝ่ายรับจะต้องตีลูกกลับ แล้วคู่ของฝ่ายส่งจะตีลูกลับไป จากนั้น
คู่ของฝ่ายรับจะตีลูกกลับไปเช่นนี้สลับกันไปในการตีโต้
2 ลูกที่ให้ส่งใหม่ (A LET)
2.1 การส่งซึ่งถือให้เป็นการส่งใหม่ ต้องมีลักษณะดังนี้
2.1.1 ถ้า
ลูกที่ฝ่ายส่งได้ส่งไปกระทบส่วนต่าง ๆ ของตาข่าย
แล้วข้ามไปในแดนของฝ่ายรับโดยถูกต้องหรือส่งไปกระทบส่วนต่าง ๆ
ของตาข่าย แล้วผู้รับหรือคู่ฝ่ายรับขวางลูก หรือตีลูกก่อนที่ลูกจะตกกระทบ
แดนของเขาในเส้นสกัด
2.1.2 ใน
ความเห็นของผู้ตัดสิน ถ้าลูกที่ส่งออกไปแล้วฝ่ายรับหรือคู่ฝ่ายรับยังไม่
พร้อมที่จะรับ โดยมีข้อแม้ว่า ฝ่ายรับหรือคู่ของฝ่ายรับไม่พยายามจะตีลูก
2.1.3 ในความเห็นของผู้ตัดสิน หากมีเหตุรบกวนนอกเหนือการควบคุมของผู้เล่นทำให้การส่ง การรับ หรือการเล่นนั้นเสียไป
2.1.4 ถ้าการเล่นถูกยุติโดยผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยตัดสิน
2.2 การเล่นอาจถูกยุติลงในกรณีต่อไปนี้
2.2.1 เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด ในลำดับการส่ง การรับลูกหรือการเปลี่ยนแดน
2.2.2 เมื่อการแข่งขันได้ถูกกำหนดให้ใช้ระบบการแข่งขันระบบการแข่งขันแบบเร่งเวลา
2.2.3 เพื่อเตือนหรือลงโทษผู้เล่น
2.2.4 ในความคิดเห็นของผู้ตัดสิน หากเห็นว่าสภาพการเล่นถูกรบกวนอันจะเป็นผลต่อการเล่น
3. ได้คะแนน (A POINT)
นอกจากการตีโต้จะถูกสั่งให้เป็นเน็ท ผู้เล่นจะได้รับคะแนนจากกรณีดังต่อไปนี้
3.1 ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้าม ไม่สามารถส่งลูกได้อย่างถูกต้อง
3.2 ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้าม ไม่สามารถรับลูกได้อย่างถูกต้อง
3.3 ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้าม ตีลูกสัมผัสถูกสิ่งใด ๆ นอกเหนือจากส่วนประกอบของตาข่าย
3.4 ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้าม ตีลูกผ่านเลยเส้นสกัดของเขาโดยไม่ได้สัมผัสกับพื้นผิวโต๊ะ
3.5 ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้าม ขวางลูก
3.6 ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้าม ตีลูกติดต่อกันสองครั้ง
3.7 ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้าม ตีลูกด้วยหน้าที่ไม่ถูกต้องตามกติกา
3.8 ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้าม หรือสิ่งใด ๆ ที่ผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้ามสวมใส่หรือถืออยู่ ทำให้พื้นผิวโต๊ะเคลื่อนที่
3.9 ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้าม หรือสิ่งใด ๆ ที่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามสวมใส่หรือถืออยู่ สัมผัสถูกส่วนต่าง ๆ ของตาข่าย
3.10 ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้าม ใช้มืออิสระสัมผัสถูกผิวโต๊ะ
3.11 ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้าม ตีลูกผิดลำดับในการเล่นประเภทคู่ยกเว้นลำดับโดยคนเสิร์ฟ หรือคนเสิร์ฟ
3.12 ในระบบการแข่งขันแบบเร่งเวลา ถ้าเขาหรือคู่ของเขาสามารถตีโต้กลับไปได้อย่างถูกต้องครบ 13 ครั้ง
https://sites.google.com
https://sites.google.com